เจาะลึก อุปกรณ์ช่างพื้นฐาน ที่ควรมีติดบ้าน!
เชื่อว่าใครหลายๆคนก็คงเคยเห็นอุปกรณ์ช่างมากหน้าหลายตา
หลากหลายชนิดมาไม่มากก็น้อย แต่ยังไม่ทราบชื่อเฉพาะของอุปกรณ์เหล่านั้น
หรือ รู้วิธีการใช้งานที่ถูกต้อง วันนี้ เราจะพาทุกคนมาเจาะลึกอุปกรณ์ช่าง แต่ละชนิดกันค่ะ

1. ค้อน
– ค้อนหงอน หรือ ค้อนถอนตะปู (Claw Hammer) : ใช้สำหรับตอกหรือดึงตะปู โดยมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในงานไม้ และการซ่อมแซมบ้านเรือนทั่วไป
– ค้อนหัวกลม หรือ ค้อนหัวบอล (Ball Peen Hammer) : มีลักษณะโค้งมนหรือเป็นรูปลูกบอลที่ปลายด้านหนึ่งและมีหน้าแบนอีกด้านหนึ่ง ค้อนหัวกลมมักใช้ในงานโลหะและย้ำหมุด,ตะปูต่างๆ
– ค้อนปอนด์ (Sledge Hammer) : ค้อนขนาดใหญ่และหนักที่มีด้ามจับขนาดยาว มักใช้สำหรับงานหนัก เช่น การรื้อถอน การตอกเสาเข็ม และการทุบคอนกรีตหรือหิน
– ค้อนยาง (Rubber Hammer) : หัวค้อนทำจากยางพารา ใช้สำหรับงานที่ต้องใช้การสัมผัสที่นุ่มนวล เช่น การติดตั้งพื้น การประกอบเฟอร์นิเจอร์ และงานไม้ที่ค้อนโลหะอาจจะทำให้ชิ้นงานเสียหายได้
– ค้อนไร้แรงสะท้อน หรือ ค้อนยูริเทน (Dead Blow Hammer) : ค้อนประเภทนี้มีหัวกลวงที่มีโครงสร้างภายในเป็นเหล็กหรือมีลูกเหล็กกลมๆไว้คอยซับแรงและลดความเสียหายต่อพื้นผิวที่ถูกกระแทก มักใช้ในการซ่อมรถยนต์ งานโลหะ และการก่อสร้างต่างๆ
– ค้อนเคาะขึ้นรูป หรือ ค้อนตู้ (Bumping Hammer) : ใช้ทุบ เคาะ ตอก ตีโลหะ เพื่อขึ้นรูปดัดเหล็ก มักใช้ในงานซ่อมตัวถังรถยนต์และงานขึ้นรูป มีลักษณะเป็นค้อนแบบ 2 หัว โดยฝั่งหนึ่งเป็นหน้าตัดแบนเรียบ และอีกฝั่งมีปลายแหลม
– ค้อนพลาสติก (Plastic Hammer) : หัวค้อนทำจากพลาสติก ใช้ตอกสำหรับงานที่ต้องระมัดระวัง ต้องการความปราณีต ไม่ให้พื้นผิวแตกร้าวหรือยุบ
– ค้อนเหลี่ยมสันขวาง (Cross Peen Hammer) : ค้อนเหล่านี้มีรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสหน้าตัดที่ด้านหนึ่ง และมีลักษณะเรียวตัดขวางในอีกด้านหนึ่ง มักใช้ในงานโลหะและงานตัดเฉือนเพื่อการตีและขึ้นรูปโลหะ

2. ไขควง
– ไขควงปากแบน (Slotted Screwdriver) : มีลักษณะปลายแบนตรงที่พอดีกับหัวสกรูที่มีรู ไขควงปากแบนมักใช้สำหรับงานบ้านทั่วไปและในการใช้งานที่มักใช้สกรูหัวแบน
– ไขควงปากแฉก (Cross Head Screwdriver) : มีปลายรูปกากบาทที่ออกแบบมาให้พอดีกับหัวสกรู หรือมีลักษณะหัวเป็นเครื่องหมายบวก (+) โดยใช้กันอย่างแพร่หลายในการก่อสร้าง การประกอบเฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ
– ไขควงหัวสี่เหลี่ยม (Square Screwdriver) : มีปลายรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่พอดีกับหัวสกรู ซึ่งมีช่องรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มักใช้ในงานไม้ การก่อสร้าง และงานยานยนต์
– ไขควงหัวดาว หรือ ไขควง Torx (Torx Screwdriver) : มีปลายรูปดาวหกแฉกที่พอดีกับหัวสกรู ซึ่งมีช่องรูปดาวที่พอดีกับหัวสกรู มักใช้ในงานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ การซ่อมรถยนต์ และเครื่องจักร
– ไขควงหัวหกเหลี่ยม (Hexagon Screwdriver) : มีปลายรูปทรงหกเหลี่ยมที่พอดีกับหัวสกรูหกเหลี่ยม มักใช้ในการประกอบเฟอร์นิเจอร์ จักรยาน และเครื่องจักร
– ไขควงสามแฉก (Pozidriv Screwdriver) : มีปลายสามแฉกที่ออกแบบมาให้พอดีกับหัวสกรูสามแฉก ซึ่งมีช่องสามช่องที่พอดีกับหัวสกรู มักใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอนโซลวิดีโอเกมและโทรศัพท์มือถือ

3. คีม
– คีมคอเลื่่อน (Water Pump Pliers) : คีมอเนกประสงค์ สามารถหมุนปรับได้ ช่วยให้ผู้ใช้ปรับขนาดปากจับเพื่อรองรับชิ้นงานต่างๆ มักใช้สำหรับจับ ดัด และบิดวัตถุในการใช้งานทั่วไป
– คีมจมูกยาว (Long Nose Pliers) : มีปากเรียวยาวและมีปลายแหลม ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเข้าถึงพื้นที่แคบและจับวัตถุ สายไฟ และส่วนประกอบขนาดเล็ก มักใช้ในงานอิเล็กทรอนิกส์และการทำเครื่องประดับ
– คีมปากแบน หรือ คีมปากตรง (Linesman Pliers) : มีปากแบนและมักใช้สำหรับการดัดแผ่นโลหะ การยืดลวดให้ตรง และการจับวัตถุขนาดใหญ่และใช้ในงานไฟฟ้าสำหรับตัด ยึด และดัดสายไฟหรือสายเคเบิล
– คีมล็อค (Locking Pliers) : เป็นคีมที่มีกลไกการล็อคที่ช่วยให้สามารถยึดเข้ากับวัตถุและรักษาการยึดเกาะที่มั่นคงโดยไม่ต้องใช้แรงกด คีมล็อคมีประโยชน์ในการจับ หนีบ และประแจในงานซ่อมยานยนต์ การเชื่อมวัตถุ และงานโลหะ
– คีมตัด (Cutting Pliers) : เป็นคีมที่เน้นในงานตัด ไม่สามารถนำไปใช้จับชิ้นงาน มีลักษณะคล้ายกรรไกรสามารถตัดชิ้นงานที่หนาและแข็งได้ดีกว่ากรรไกร ใช้สำหรับตัดเหล็กหรือเส้นลวด
– คีมย้ำหางปลา หรือ คีมย้ำสาย (Crimping Pliers) : ออกแบบมาสำหรับย้ำและยึดขั้วต่อ และปลอกสายไฟเข้ากับสายไฟและสายเคเบิล มักใช้ในงานไฟฟ้าและโทรคมนาคม
– คีมถ่างแหวนล็อค (Snap Ring Pliers) : ออกแบบมาเพื่อติดตั้งและถอดแหวนล็อค ซึ่งมักพบในงานยานยนต์ เครื่องจักร ตลอดจนการประกอบและซ่อมแซมอุปกรณ์
– คีมเจาะรูตาไก่ (Punching Pliers) : ใช้เจาะรูบนผ้าใบหรือหนัง มีให้เลือกทั้งรุ่นที่เจาะรูได้ขนาดเดียว และรุ่นที่ปรับให้เจาะรูได้หลายขนาด

4. ขวาน
– ขวานผ่าไม้ (Splitting Axe) : มีหัวรูปลิ่ม มีขนาดหนัก ได้รับการออกแบบมาเพื่อผ่าไม้ตามลายไม้ โดยทั่วไปแล้วจะมีใบมีดที่กว้างเพื่อผ่าท่อนไม้ออกเป็นชิ้นเล็กๆ
– ขวานหัวเหล็ก (Felling Axe) : มีรูปทรงใบมีดที่คมและบางและมีหัวเรียว ส่วนหัวทำจากเหล็ก และด้ามจับมีทั้งที่ทำจากไม้หรือเหล็กก็ได้ ทำให้เหมาะสำหรับการตัดต้นไม้ ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้สับต้นไม้ได้อย่างแม่นยำ
– ขวาน 2 หน้า (Pick Axe) : มีใบมีดอยู่ที่ปลายทั้งสองด้านของหัว มักใช้ในป่า และการตัดไม้
– ขวานถากไม้ หรือ ขวานโยน (Forest Axe) : มีใบมีดโค้งตั้งฉากกับด้ามจับ ใช้สำหรับปรับผิวไม้ให้เรียบ เช่น เจาะท่อนซุง หรือการขัดไม้
– ขวานขว้าง (Throw Axe) : ออกแบบมาโดยเฉพาะ สำหรับการขว้างเพื่อความบันเทิงหรือการแข่งขัน
– ขวานดับเพลิง (Fire Axe) : ออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินและการดับเพลิง โดยมีเหล็กแหลมที่ด้านหนึ่งของหัวขวาน ใช้สำหรับเจาะประตู และอีกด้านเป็นใบมีดใช้สำหรับตัดหรือสับสิ่งกีดขวาง

5. ประแจ
– ประแจแหวน (Box Wrench) : ประแจนี้มีการออกแบบ แบบวงปิดที่พอดีกับหัวสลักเกลียวหรือน็อต และมักใช้ในงานด้านยานยนต์และเครื่องจักรกล มีทั้งแบบแหวนเดี่ยว และ แหวนคู่
– ประแจปากตายคู่ (Double Open End Wrench) : ประแจนี้มีช่องเปิดรูปตัว U ที่ปลายทั้งสองข้าง โดยแต่ละอันมีขนาดแตกต่างกัน ช่วยยึดติดและขันออกได้อย่างรวดเร็ว
– ประแจรวม (Combination Wrench) : ปลายด้านหนึ่งมีลักษณะเหมือนประแจแหวนและปลายอีกด้านหนึ่งมีลักษณะคล้ายประแจปากตายคู่ ใช้เพื่อเพิ่มแรงบิด มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในงานด้านยานยนต์และเครื่องจักรกล
– ประแจเลื่อน (Adjustable Wrench) : มีขากรรไกรแบบปรับได้ทำให้สามารถใส่สลักเกลียวและน็อตขนาดต่างๆได้ นิยมใช้ในงานประปา ซ่อมรถยนต์ และงานซ่อมบำรุงทั่วไป
– ประแจหกเหลี่ยม (Hex Wrench) : ประแจรูปตัว L ใช้สำหรับขันสกรูและโบลท์ที่มีช่องเสียบหกเหลี่ยม นิยมใช้ประกอบเฟอร์นิเจอร์ จักรยาน และเครื่องจักร
– ประแจขันท่อ (Pipe Wrench) : มีปากฟันปลาที่ยึดเกาะเพื่อให้เข้ากับขนาดของท่อและข้อต่อ มักใช้ในระบบประปา เพื่อกระชับและคลายท่อ
– ประแจขันก็อก (Basin Wrenches) : ใช้สำหรับขันและคลายน็อตบนท่อและข้อต่อในที่ๆแคบ มักใช้ไขก็อกน้ำซ่อมแซมซิงค์อ่างล้างจาน,อ่างล้างหน้า และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ
– ประแจกระบอก (Socket Wrench) : เป็นประแจที่มีลักษณะเป็นรูปทรงกระบอก ใช้ขันและคลายน็อตตัวเมีย มักใช้กับงานซ่อมแซมเครื่องยนต์ งานถอดประกอบชิ้นส่วนเครื่องยนต์ และเครื่องจักร

6. เลื่อยมือ
– เลื่อยลันดา หรือ เลื่อยตัดขวาง (Hand Saw) : มีฟันที่ออกแบบมาเพื่อตัดผ่านลายเส้นใยไม้ มักใช้สำหรับตัดแผ่นไม้ แผ่นกระดาน และไม้แปรรูปตามความยาว ถ้าฟันยิ่งมาก ชิ้นงานจะออกมาเรียบและประณีต
– เลื่อยโกรก (Crosscut Saw) : ขนาดฟันจะใหญ่กว่า “เลื่อยตัดขวาง” มีรูปร่างคล้ายสิ่ว ใช้เลื่อยตามเสี้ยนไม้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการฉีกไม้และตัดไม้ขนานไปกับลายไม้
– เลื่อยปังตอ หรือ เลื่อยรอ (Back Saw) : ทำด้วยเหล็กแบน ใช้บากปากไม้เพื่อทำเดือยเข้าไม้ มีทั้งแบบเรียบและแบบมีฟัน มักใช้สำหรับงานไม้ที่มีรายละเอียดสูง เช่น งานต่อไม้ งานปั้น และงานตัดแต่ง
– เลื่อยฉลุ (Fret Saw) : เลื่อยตัดไม้ที่มีใบมีดแคบบางติดอยู่กับโครงรูปตัว C ซึ่งช่วยให้ตัดไม้ พลาสติก และโลหะได้อย่างประณีต มักใช้ในงานไม้ งานสำหรับ งานตัดแต่งและงานตัดละเอียด
– เลื่อยหางหนู หรือ เลื่อยเจาะรูกุญแจ (Wallboard Saw) : ออกแบบมาเพื่อการตัดโค้ง เช่น รูปทรงรูกุญแจหรือช่องเล็กๆ ที่ทำจากไม้ ผนังเบา และพลาสติก
– เลื่อยญี่ปุ่น (Japanese Saw) : เรียกอีกอย่างว่า “โนโคกิริ” ใช้ตัดตามจังหวะการดึงมากกว่าการใช้จังหวะการกดเหมือนเลื่อยของตะวันตก มีใบมีดบางและมีฟันละเอียด ช่วยให้ตัดไม้ ไม้ไผ่ และวัสดุอื่นๆ ได้ง่าย มีหลายประเภท ได้แก่ เลื่อยโดซึกิ เรียวบะ และเลื่อยคาตาบะ ซึ่งแต่ละประเภทเหมาะสำหรับงานเฉพาะด้าน เช่น การตัดขวาง การฉีก และงานไม้ ต่อไม้
– เลื่อยตัดโลหะ (Hack Saw) : มีใบมีดฟันละเอียดติดอยู่กับโครง ใช้สำหรับตัดโลหะ พลาสติก และวัสดุแข็งอื่นๆ มักใช้ในงานประปา งานโลหะ และการซ่อมแซมบ้านเรือนทั่วไป
– เลื่อยคันธนู (Bow Saw) : เลื่อยคันชักมีใบมีดโค้งแคบติดอยู่กับโครงรูปทรงโค้งมน เพื่อควบคุมในการตัดกิ่งไม้หนา และท่อนไม้

7. ตลับเมตร (Tape Measure) : ใช้สำหรับวัดขนาด วัดระยะต่างๆ มีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบเส้น ไม้วัด ตลับเมตร
8. คัตเตอร์ (Cutter) : ใช้เพื่อตัดแต่ง ขึ้นรูป หรือตัดชิ้นส่วนโลหะตามขนาดที่ต้องการได้ ตัดพลาสติก ตัดยาง ท่อยาง เมื่อเปลี่ยนปะเก็นในเครื่องยนต์หรือระบบกลไกอื่นๆ การตัดวัสดุปะเก็น เช่น ไม้ก็อก ยาง หรือกระดาษ การตัดท่อในรถยนต์ เช่น ท่อน้ำหล่อเย็นและท่อสุญญากาศ หรือ งานช่างบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับการตัดวัสดุฉนวนที่ใช้ในการตกแต่งภายในรถยนต์หรือห้องเครื่อง และสามารถใช้เพื่อตัดวัสดุฉนวน เช่น โฟมหรือไฟเบอร์กลาส เพื่อวัตถุประสงค์ในการติดตั้งหรือซ่อมแซมตามต้องการ
9. ไฟฉาย (Flashlight) : มีหลายรูปแบบ ทั้งแบบปากกา ที่มีขนาดกะทัดรัดและพกพาสะดวก ไฟคาดหัว และไฟฉายแบบถือทั่วไป มีประโยชน์มากเมื่อทำงานในสภาพแสงน้อย
10. มาตรวัดน้ำ (Water Meter) : ใช้เพื่อตรวจสอบและบันทึกปริมาณน้ำที่ไหลเข้าสู่ครัวเรือน อาคาร หรือสิ่งอำนวยความสะดวก สามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อคำนวณค่าธรรมเนียมการใช้น้ำเบื้องต้นได้ และยังตรวจจับการรั่วไหลของระบบประปา ซึ่งทำให้สามารถซ่อมแซมได้อย่างทันท่วงทีเพื่อป้องกันการสิ้นเปลืองน้ำและทรัพย์สินที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายได้อีกด้วย